15.12.53

หมวก กับสภาพอากาศในประเทศไทย

หมวกนับเป็นอาภรณ์ประดับกายของมนุษย์ ที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจในการสวมใส่
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ใช้สอยในเรื่องการป้องกันแสงแดด รังสียูวี และระดับความชื้นให้กับร่างกายอีกด้วย
หมวกนับเป็นอาภรณ์ประดับกายของมนุษย์ ที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจในการสวมใส่
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ใช้สอยในเรื่องการป้องกันแสงแดด รังสียูวี และระดับความชื้นให้กับร่างกายอีกด้วย
ผลการสำรวจของนักวิจัยไทยพบว่า ค่าความเข้มของรังสียูวีในประเทศไทยโดยเฉลี่ยแล้วมีค่ามากกว่า 4 กิโลจูนต่อตารางเมตรในหนึ่งวัน (kJ/m2-day)
ซึ่งเป็นระดับที่เป็นอันตรายกับผิวหนังของคนเรา ดังนั้นการสวมหมวกจึงเป็นเครื่องช่วยป้องกันภัยจากรังสียูวีอีกอย่างหนึ่ง ที่มีความคล่องตัวในการพกพาและใช้งาน
การสวมใส่หมวกปีกกว้างที่มีขนาดปีกตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป จะช่วยลดปริมาณแสงยูวีได้ถึงร้อยละ 50 ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดและลม
ที่จะทำให้เกิดโรคตาต่างๆเช่น ต้อกระจก ต้อลม ช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติของการเจริญเติบโตของเม็ดสีผิว(melanin) บนใบหน้า
เช่น ฝ้าและจุดด่างดำต่างๆ อันเป็นศัตรูความงามของคุณผู้หญิง และหมวกนี่เองที่ช่วยปกคลุมศีรษะ เก็บกักความชื้นจากร่างกายส่วนหนึ่งที่ไม่ให้ระเหยไปกับความร้อนในอากาศ
เพื่อช่วยรักษาสมดุลให้กับร่างกาย อีกทั้งป้องกันเส้นผมไม่ให้ถูกทำร้ายจากรังสียูวี อันจะทำให้เส้นผมเสีย แห้ง แตกปลายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หมวกเป็นเพียงตัวช่วยป้องกันได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ควรที่จะหลีกเลี่ยงช่วยเวลาที่มีแสงแดดจ้า สวมใส่แว่นกันแดดเพื่อช่วยถนอมดวงตา
ทาครีมกันแดดที่มีค่าSPFให้เหมาะสมกับการป้องกันผิวหนังจากแสงแดด ดื่มน้ำให้เพียงพอเมื่อต้องอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดจ้าเพื่อรักษาระดับความชื้นภายในร่างกาย
สุดท้ายอย่าลืมพกอุปกรณ์ช่วยกันแดดเช่นหมวกติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลานะคะ
ผลการสำรวจของนักวิจัยไทยพบว่า ค่าความเข้มของรังสียูวีในประเทศไทยโดยเฉลี่ยแล้วมีค่ามากกว่า 4 กิโลจูลต่อตารางเมตรในหนึ่งวัน (kJ/m2-day)
ซึ่งเป็นระดับที่เป็นอันตรายกับผิวหนังของคนเรา ดังนั้นการสวมหมวกจึงเป็นเครื่องช่วยป้องกันภัยจากรังสียูวีอีกอย่างหนึ่ง ที่มีความคล่องตัวในการพกพาและใช้งาน
การสวมใส่หมวกปีกกว้างที่มีขนาดปีกตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป จะช่วยลดปริมาณแสงยูวีได้ถึงร้อยละ 50 ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดและลม
ที่จะทำให้เกิดโรคตาต่างๆเช่น ต้อกระจก ต้อลม ช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติของการเจริญเติบโตของเม็ดสีผิว(melanin) บนใบหน้า
เช่น ฝ้าและจุดด่างดำต่างๆ อันเป็นศัตรูความงามของคุณผู้หญิง และหมวกนี่เองที่ช่วยปกคลุมศีรษะ เก็บกักความชื้นจากร่างกายส่วนหนึ่งที่ไม่ให้ระเหยไปกับความร้อนในอากาศ
เพื่อช่วยรักษาสมดุลให้กับร่างกาย อีกทั้งป้องกันเส้นผมไม่ให้ถูกทำร้ายจากรังสียูวี อันจะทำให้เส้นผมเสีย แห้ง แตกปลายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หมวกเป็นเพียงตัวช่วยป้องกันได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ควรที่จะหลีกเลี่ยงช่วยเวลาที่มีแสงแดดจ้า สวมใส่แว่นกันแดดเพื่อช่วยถนอมดวงตา
ทาครีมกันแดดที่มีค่าSPFให้เหมาะสมกับการป้องกันผิวหนังจากแสงแดด ดื่มน้ำให้เพียงพอเมื่อต้องอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดจ้าเพื่อรักษาระดับความชื้นภายในร่างกาย
สุดท้ายอย่าลืมพกอุปกรณ์ช่วยกันแดดเช่นหมวกติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น